อยากรู้จักประจุไฟฟ้าในดินและ Plant E ฟังทางนี้

[[ บทความที่น่าสนใจอื่นๆ ]]

ไฟฟ้าในดินเกิดได้อย่างไร

สมบัติทางเคมีของดิน

Plant E มีหลักการอย่างไร

การทำเส้นก๊วยจั๊บญวน หรือ เส้นข้าวเปียก

๐ [ แก้ปัญหานอนไม่หลับโดยไม่ต้องพึ่งยา ]

[ลงทุนกับกองทุน LTF ช่วยลดหย่อนภาษี]

[กฏเหล็กของคนที่อยากผอมด้วยมะนาว]

[พลังแห่งความคิด]

[ความสุข]

[สรรหามาฝากว่าด้วยคนมีเสน่ห์]

๐ [ภาพมายา]

๐ [ทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างไรให้สนุก]

๐ [เมนูแนะนำจากต้นอ่อนทานตะวันงอก]

๐ [กลับหน้าหลักนานาสาระ]

[กลับหน้าหลัก]
 

 

 

     Plant E มีหลักการอย่างไร

 

         หลังจากที่เราทำความเข้าใจเกี่ยวกับประจุในดินซึงส่งผลให้เกิดประจุไฟฟ้าในดินแล้วคราวนี้เรามาดู
หลักการของพืชที่ให้กระแสไฟฟ้า (Plant E ) บ้าง ในส่วนของ Plant E ผู้เขียนได้ศึกษาข้อมูล
จากต่างประเทศและรวบรวม Concept ออกมา

          โดยปกติในดินก็จะมีประจุที่สามารถทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าตามข้อมูลดังกล่าวข้างต้น
และจากการทดลองพบว่าดินที่ชุ่มน้ำและเป็นดินเหนียวจะให้ประจุมากที่สุด ในส่วนนี้เป็นหลักการพื้นฐาน
เกี่ยวกับสมบัติทางเคมีของดินแต่หลักการของ Plant E มีเพิ่มเติมขึ้นมาคือจะเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์แสง
เข้ามาร่วมด้วยจากข้อมูลพบว่ากระบวนการสังเคราะห์แสง ซึ่งมีการใช้น้ำและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
จะมีการสร้างน้ำตาลให้กับพืชในปริมาณมาก น้ำตาลบางส่วนจะถูกปล่อยออกมาจากต้นพืชสู่ดิน ภายในดินจะมีจุลินทรีย์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว อาจจะเป็นได้ทั้ง แบคทีเรีย และโพรโทรซัว จะทำสลายน้ำตาลและมีการปลดปล่อยอิเล็คตรอนออกมา รวมทั้งไฮโดรเจนไอออนที่มีระดับพลังงานสูง ออกมาด้วย ดังนั้นเมื่อประยุกต์หลักการของปฏิกิริยารีดอกซ์ เข้ามาจะสามารถดึงอิเล็คตรอนที่จุลินทรีย์ปล่อยออกมา
ให้เกิดการถ่ายทอดและเกิดกระแสไฟฟ้าได้ ดังนั้นเมื่อเราวางโลหะที่สามารถรับอิเล็คตรอนลงในดินที่ปลูกพืช
ก็จะมีการถ่ายทอดอิเล็คตรอนไปยังอีกขั้วหนึ่งได้ ในที่นี้อาจจะใช้แผ่นสังกะสี และ ทองแดง เป็นตัวให้ และ
รับอิเล็คตรอน กระแสไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจะมีเพิ่มเติมจากการใช้กับดินเพียงอย่างเดียว

          จากแนวคิดนี้ผู้เขียนเราได้ทำการ ทดสอบต่อแผ่นทองแดงกับแผ่นสังกะสีเพื่อให้พลังงานไฟฟ้า
แบบอนุกรมและวัดความต่างศักย์โดยใช้มัลติมิเตอร์โหมด DCV ที่ระดับอ้างอิงที่ 20 พบว่าต้นไม้
ขนาดเล็ก 16 ต้นในกระถางขนาดเล็กที่ต่อวงจรแบบอนุกรม วัดได้ 8.50  และกระแสไฟฟ้าค่อนข้างคงที่
อาจลดบ้าง ที่ 7-6 ในช่วงวันและพบว่าในเวลากลางวันจะมีแนวโน้มค่าความต่างศักย์สูงกว่า
ในตอนกลางคืนจากการศึกษาครั้งนี้อาจกล่าวได้ว่าการเกิดกระแสไฟฟ้าในดินหากใช้ดินที่มีต้นพืชด้วย กระบวนการสังเคราะห์แสงจะช่วยสนับสนุนประจุให้เกิดกระแสไฟฟ้าได้


         อย่างไรก็ตามการทดลองนี้ยังต้องพัฒนา ควบคุมตัวแปรและต้องปรับปรุงอีกมาก เพื่อให้เกิดผลลัพธ์
ที่น่าพึงพอใจกล่าวคือสามารถให้กำลังไฟฟ้าที่สูงขึ้นและสามารถชาร์ตเก็บประจุไฟฟ้าไว้ได้ แต่ข้อมูล
ที่นำเสนอในครั้งนี้น่ามีประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจ ที่อยากศึกษาต่อเพราะจากการทดลองนี้ผู้เขียนเองก็แอบ
วาดฝันเหมือนกันว่าอนาคตแหล่งจ่ายไฟฟ้าในครัวเรือนนอกจากจะมาจากการไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ แล้วไฟฟ้าจากดินน่าจะเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจและสามารถพัฒนาต่อยอดได้ง่ายรวมทั้งเป็น
พลังงานสะอาดที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะลองคิดดูกันเล่นๆว่าจะดีแค่ไหนหากอนาคตเราจะชาร์ตแบตโทรศัพท์
ง่ายๆเพียงนำปลั๊กเสียบลงดิน หรือใช้รถยนต์ที่ชาร์ตไฟฟ้าจากดินได้คงต้องฝากความหวังไว้กับนักประดิษฐ์ และนักวิทยาศาตร์ทุกท่านช่วยกันพัฒนาให้เป็นจริงขึ้นมาได้

         

 

 

 

 

 

 

อ่านหัวข้อก่อนหน้า

<<<<<<< สมบัติทางไฟฟ้าเคมีของดิน


 

 

 



เรื่องโดย
ครูนันทนา สำเภา
Webmaster NaNa-Bio.com